คำถามคือ : มีคำถามที่ครูฟีลพูดพอดีเลยคับ ตัวเองทำไมเวลาร้องเพลงที่มีโน๊ตสูงๆต่อๆกันหรือวรรคที่มีเสียงสูงนานๆ แล้วเสียงแหบคับ ไปเรียนร้องเพลงมาหลายที่ก็แก้ไม่หาย บางที่บอกว่าไม่แข็งแรงให้ไปออกกำลังกายบ้าง ทั้งที่จริงๆออกเป็นประจำอยู่แล้ว บางที่บอกว่าใช้เสียงผิดวิธีแต่เวลาขึ้นเสียงสูงผมก็ใช้มิคซ์โทนไม่ไช่ฟูเช็ส บางที่ก็บอกว่าใช้เสียงมาเยอะบวกกับอายุเยอะแล้วเส้นเสียงเสื่อมไปตามกาลเวลา อายุผม30กว่าๆ ก็เลยแก้ปัณหานี้ไม่ได้สักที ช้วยตอบด้วยครับ

คำตอบครูฟิล์มคือ : ยินดีครับ อาจจะต้องอธิบายยาวและลึก แต่ผมจะลองย่อๆดูนะ หลักการที่ผมจะสอนนักเรียนทุกคนคือ Less Input – More Output อันนี้เป็นสิ่งที่ผมเน้นทุกคนตั้งแต่ครั้งแรกที่เรียน . ถึงแม้ว่าเราจะใช้เสียงได้ถูกตามที่เราอยากใช้ ไม่ว่าจะเป็น Chest หรือ Mixed แต่ถ้าเราไม่สามารถควบคุม input และตัวแปรอื่นๆได้ เราก็จะเหนื่อย ยิ่งร้องก็ยิ่งเหนื่อย กล่าวคือ ลมที่ใช้ ใช้มากเกินความจำเป็นรึเปล่า. ใช้กล้ามเนื้อเกินความจำเป็นรึเปล่า เราสามารถใช้แรงให้น้อยกว่านี้และได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าเดิมได้ไหม. เพราะถ้าเราใช้เกินความจำเป็น เท่ากับว่าเราก็หมดแรงไปเสียก่อน ก่อนที่จะร้องจบเพลงด้วยซ้ำ . เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากจะร้องเพลงได้ถูกต้องแล้วจำเป็นต้องฝึกละเอียดไปถึงวิธีการร้องแต่ละแบบให้เกิดความสมดุลด้วยครับ . นักวิ่งที่แข็งแรงใช่ว่าจะไม่เหนื่อย เค้าก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่เค้ารู้จักวิธีบริหารและจัดการแรงที่เค้ามีให้เล่นกีฬาได้จนจบเกมส์ครับ . นักร้องก็ควรต้องทำแบบนั้นเช่นกันนะครับ ถ้าเราออกแรงร้องไป 10 แล้วได้ผลลัพธ์แค่ 7 อันนี้ไม่ดีแน่นอน ร้องไม่จบเพลงแน่ๆ ถ้าเราออกแรงร้องไป 10 ได้ผลลัพธ์ 10 ก็เท่าทุน ร้องได้นานขึ้น แต่ก็ยังเหนื่อย ยังไงมันก็ต้องเหนื่อยต้องล้า แต่ถ้าเราออกแรง 7 แต่ร้องได้ผลลัพธ์ 10 ล่ะครับ จะเป็นอย่างไร . เราจะเหนื่อยน้อยลงมาก เราจะร้องเพลงได้นานขึ้นมาก . มีความคงทนของเสียงมากขึ้น ใช้งานได้นานมากขึ้นครับ

หวังว่าผมจะตอบคำถามได้นะครับ
ครูฟิล์ม