คำถาม 4 คำถามที่ควรถามตัวเองและหาคำตอบให้ได้ ถ้าอยากร้องเพลงให้เก่ง ยิ่งถ้าต้องขึ้นเวทีประกวด ยิ่งต้องให้ความสนใจ
สวัสดีครับผู้มีความฝันบนเวทีประกวดทุกท่าน! การก้าวขึ้นไปบนเวทีประกวดรายการทีวีนั้น แตกต่างจากการร้องเพลงให้เพื่อนฟังอย่างสิ้นเชิง มันคือการ “แสดง” ที่ต้องสมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้ความกดดันและเวลาอันจำกัด กรรมการและผู้ชมทางบ้านตัดสินเราจากทุกมิติ ทั้งสิ่งที่ตาเห็นและหูได้ยิน
วันนี้ครูฟิล์มจะพามาเจาะลึก 4 ประเด็นสำคัญที่เป็นเหมือน “กับดัก” ที่อาจทำให้การแสดงของคุณไม่เป็นไปตามที่หวัง เพื่อให้คุณได้ตรวจสอบตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย และพร้อมที่จะเฉิดฉายที่สุดบนเวทีแห่งความฝันครับ ในปีที่แล้วและปีที่ผ่านมา มีลูกศิษย์ของครูฟิล์มประสบความสำเร็จในระดับต่างประเทศหลายคน ไม่ว่าจะเป็นที่เยอรมัน อิตาลี่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศก็จะเป็นรายการประกวดชื่อดังหลายๆที่ที่จัดกันอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้เป็นภาคต่อจากบทความแรกที่เคยเขียนไว้เมื่อปี 2021 ตามไปอ่านกันได้ที่ https://rongpleng.com/working-with-pleng-ake-winner-chaitouch-kittitouch-kaewou-thai/
เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ถูกกลั่นกรองออกมาอย่างดี และได้นำไปใช้ในการ coach จริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลองนำไปใช้ดูนะครับ
ในแต่ละข้ออยากให้ทุกคนได้ลองวิเคราะห์การร้องของตัวเอง พยายามตอบคำถามให้ได้ว่าเรากำลังทำหรือไ่ม่ทำอะไรอยู่ บทความนี้อาจจะไม่ได้เขียนครบทุกข้อแต่อย่างน้อยก็จะเป็น guideline ที่ดีให้กับทุกคนได้ครับ
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
1. ปัญหาที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของการร้องซึ่งก่อให้เกิดผลเสียกับเพลง สไตล์การร้อง และอาจโดนตัดคะแนนถ้าต้องประกวด ❌
หัวข้อนี้คือ “รากฐาน” ที่ต้องแข็งแรงที่สุด เพราะเป็นจุดที่กรรมการจะฟังออกทันที และมันสะท้อนถึงวินัยในการฝึกซ้อมทั้งหมดของคุณ ถ้าพลาดตรงนี้ ทุกอย่างที่เตรียมมาอาจพังทลายลงได้
- เสียงเพี้ยน (Pitchy): นี่คือข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุด! ไม่ว่าคุณจะใส่อารมณ์มาเต็มแค่ไหน แต่ถ้าคีย์เพี้ยน เพลงจะเสียอรรถรสทันที กรรมการส่วนใหญ่ถือว่านี่คือจุดอ่อนที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะมันบ่งบอกว่าคุณยังควบคุมเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญที่สุดของตัวเองไม่ได้
- การหายใจไม่เป็นระบบ (Poor Breath Management): การหายใจผิดตำแหน่ง เช่น หายใจกลางคำ หรือลมหมดก่อนจบท่อนที่ควรลากยาว จะทำให้วลีเพลงขาดตอน เสียงตอนท้ายประโยคสั่นเครือ หรือแผ่วจนไม่ได้ยิน สิ่งนี้ทำให้การร้องของคุณฟังดูเหนื่อยและขาดความเป็นมืออาชีพอย่างชัดเจน
- การออกเสียงไม่ชัด (Poor Diction): โดยเฉพาะในเพลงภาษาไทยหรืออังกฤษ หากการออกเสียงสระ พยัญชนะ หรือตัวสะกดไม่ชัดเจน จะทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจความหมายและอารมณ์ของเพลง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารผ่านบทเพลง (เรื่องนี้ต้องถกเถียงเล็กน้อยว่า ไม่ชัดขนาดไหนกันถึงจะเรียกว่าไม่ชัด หรือเข้าขั้นรับไม่ได้ หรือมากเกินไป)
- การควบคุมอารมณ์บนเวทีไม่ได้ (Lack of Stage Composure): นี่คือจุดชี้วัดสำคัญ! หลายคน “ร้องดีในห้องซ้อม แต่ไม่รอดบนเวที” ความตื่นเต้นประหม่าทำให้เสียงสั่น ร้องแข็งทื่อ หรือแม้กระทั่งลืมเนื้อร้อง ซึ่งกรรมการจะสัมผัสได้ทันทีว่าคุณยังไม่พร้อมสำหรับเวทีใหญ่
ข้อควรจำ: สิ่งเหล่านี้คือ “ข้อหักคะแนน” แบบตรงไปตรงมาที่ต้องแก้ไขให้หมดจดก่อนขึ้นเวที
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
2. ปัญหาที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของการร้อง แต่กลายเป็นผลดีต่อสไตล์และอาจจะไม่โดนตัดคะแนน ✨
จุดนี้คือเสน่ห์เฉพาะตัว มันคือ “ความไม่สมบูรณ์แบบที่ควบคุมได้” (Controlled Imperfection) ซึ่งทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น แต่กุญแจสำคัญคือมันต้องมาจาก “ความตั้งใจ” และ “ความจริงใจ” ไม่ใช่ “ความผิดพลาด”
- เสียงแหบเล็กน้อย (Vocal Rasp): หากใช้ถูกที่ถูกเวลาในท่อนที่ต้องการสื่อสารความเจ็บปวด มันจะกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้การร้องของคุณดู “จริงและดิบ” (Real & Raw) และเข้าถึงอารมณ์คนฟังได้อย่างลึกซึ้ง
- โน้ตที่ไม่เป๊ะ 100% แต่มีอารมณ์จริง: บางครั้งการลากเสียง (Scooping) หรือการไถเสียงที่ไม่ตรงคีย์เป๊ะๆ แต่สามารถ ถ่ายทอดความรู้สึกจนคนเชื่อได้ มันอาจมีพลังมากกว่าการร้องโน้ตที่สมบูรณ์แบบแต่ไร้ชีวิตชีวา (เรื่องนี้ก็ต้องดูดีๆว่า ถ้ามันฟังดูเพี้ยนก็ให้ปรับจนฟังเป็นธรรมชาติ)
- การหายใจแทรกกลางวลีอย่างตั้งใจ: แม้ตามทฤษฎีจะไม่ถูกต้อง แต่ในบางครั้ง การถอนหายใจหรือเสียงลมหายใจที่แทรกเข้ามาอย่างจงใจ สามารถเพิ่ม “ความเป็นมนุษย์” และอารมณ์ที่สดใหม่ให้กับการร้องได้ เหมือนเรากำลังเล่าเรื่องสำคัญให้ใครสักคนฟัง
- เสียงสั่นที่ไม่ใช่ Vibrato (Natural Tremble): เสียงสั่นเล็กน้อยที่เกิดจากอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในท่อนพีคของเพลง หากอยู่ในบริบทที่เหมาะสม มันอาจถูกมองว่าเป็น เอกลักษณ์ที่มาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่ข้อผิดพลาดทางเทคนิค
ข้อควรจำ: กรรมการบางท่านให้น้ำหนักกับ “ความจริงใจในการร้อง” มากกว่าความเป๊ะทางเทคนิคเสมอ
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
3. ปัญหาที่เกิดจากการสร้างสไตล์การร้องที่อาจจะมีปัญหาต่อการร้องตามแบบแผนเดิม
นี่คือ “กับดักของความเป็นตัวเอง” การมีสไตล์เป็นเรื่องดี แต่ถ้าสไตล์ของเราไปทำลายแก่นของเพลงต้นฉบับ อาจกลายเป็นการสื่อสารผิดพลาดได้
- การใส่ลูกเล่นเยอะเกินไป (Over-Runs/Over-Riffs): การด้นสดหรือใส่ลูกเอื้อนที่แพรวพราวมากเกินไป อาจทำให้เพลงเสียรูปแบบและคนฟังจับทำนองหลักไม่ได้ มันทำให้คุณดูเหมือนกำลัง “อวดเทคนิค” มากกว่า “เล่าเรื่อง” หรือบางทีใส่จนล้น หรือว่าใส่เยอะมากๆ แต่ทำได้ไม่สมบูรณ์ ทำได้ไม่ละเอียด ถ้าแบบนั้นตัดทิ้งก็อาจจะไม่เสียคะแนน ดีกว่าใส่แล้วเสียคะแนน หรือทำให้เพลงหมดความไพเราะไป
- การตีความแตกต่างจากต้นฉบับมากไปแต่เปลี่ยนแล้วขัดกับดนตรี หรือคอร์ดที่วางไว้ : การสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำแล้วขัดกับคอร์ด หรือดนตรีที่วางไว้ ก็อาจจะฟังดูเพี้ยน ล้น เกิน ขาด ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการแสดงแน่นอน
- การเน้นโทนเสียงเฉพาะทางมากเกินไป: เช่น บางคนมีสไตล์ร้องกระแทกกระทั้นตลอดทั้งเพลง หรือใช้แต่เสียงหลบ (Falsetto) จนขาดพลังเสียงเต็ม อาจทำให้กรรมการรู้สึกว่าคุณ ขาด “ความครบเครื่อง” ในฐานะนักร้อง
- ตะโกนทุกท่อน (Over-Power) ขาด Musicality → เพลงแบน ไม่น่าฟัง ยิ่งร้องยิ่งอึดอัด ฟังเองก็อึดอัด แล้วคนฟังจะไม่อึดอัดได้อย่างไร
- สไตล์ส่วนตัวที่ไม่เข้ากับเพลง: นี่คือข้อผิดพลาดง่ายๆ เช่น เลือกเพลงหวานซึ้ง แต่กลับร้องด้วยโทนเสียงที่แข็งกร้าว ดุดันเกินไป มันทำให้อารมณ์ของเพลงกับคนร้องไม่ไปด้วยกัน (เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องดูจุดประสงค์ของการร้อง ควบคู่กับดนตรีที่เราร้องด้วย)
ข้อควรจำ: การสร้างสไตล์เป็นเรื่องดี แต่ต้องรู้จุดสมดุลว่า “จะโชว์ความเป็นตัวเองอย่างไรโดยไม่ทำลายเพลง”
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
4. ปัญหาที่นักร้องเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นปัญหา
หัวข้อสุดท้ายนี้อันตรายที่สุด เพราะมันคือ “จุดบอด” (Blind Spot) ของเราเอง เป็นนิสัยที่ทำจนชินและคิดว่ามันคือสไตล์ แต่ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญ มันคือข้อด้อยที่ต้องแก้ไข
- การใช้แรงมากเกินไปในการร้อง: คุณอาจรู้สึกว่า “ฉันร้องเต็มที่แล้ว” แต่ในความเป็นจริงมันคือ การกดเสียงหรือเค้นเสียง ซึ่งทำให้เสียงแข็ง ไม่น่าฟัง และทำให้คุณเหนื่อยเร็วโดยไม่จำเป็น
- การไม่ฟังดนตรีอย่างแท้จริง: นักร้องหลายคนมั่นใจว่าตัวเองร้องตรงจังหวะ แต่จริงๆ แล้ว “รีบไปหรือช้าไป” จากวงดนตรีเล็กน้อยเสมอ ซึ่งความผิดพลาดเล็กๆ นี้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของโชว์ทั้งหมด
- การเลือกเพลงที่ไม่เหมาะกับตัวเอง: นี่คือจุดบอดที่ใหญ่ที่สุด! นักร้องมักเลือกเพลงที่ “ชอบฟัง” แต่ไม่ใช่เพลงที่ “เหมาะกับเสียง” หรือเพลงที่สามารถ โชว์ศักยภาพที่ดีที่สุดของคุณได้ การเลือกเพลงผิด เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด
- การละเลยท่าทางบนเวที (Stage Presence): คุณอาจคิดว่าแค่ร้องเพลงให้ดีก็พอ แต่ในเวทีประกวด “การสื่อสารด้วยร่างกาย” ทั้งสายตา ท่าทาง การเคลื่อนไหว เป็นอีกหนึ่งคะแนนที่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ถ้าคุณยืนร้องนิ่งๆ เหมือนท่อนไม้
- การออกเสียงสระที่ไม่ชัดเจน: นักร้องบางคนเคยชินกับการร้องรวบคำหรือออกเสียงสระแบบคลุมเครือ ซึ่งตัวเองอาจไม่รู้สึก แต่สำหรับผู้ฟังทางบ้าน มันทำให้เนื้อเพลงขาดความชัดเจน (อันนี้ก้ต้องถกเถียงกันอีกนิดนึงว่า ถ้าอยากออกเสียงไม่ชัด ต้องไม่ชัดขนาดไหนถึงยังถือว่าโอเค)
ข้อควรจำ: สิ่งเหล่านี้คือนิสัยที่นักร้อง “ไม่รู้ตัว” แต่กรรมการและคนดู “เห็นและรู้สึกได้ชัดเจน”
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
✨ สรุปส่งท้าย: จากผู้เข้าแข่งขันสู่ผู้ชนะ
ทบทวนทุกข้อให้ดี อัดเสียงและวิดีโอการซ้อมของคุณกลับมาดูบ่อยๆ เพื่อหาจุดบอดของตัวเองให้เจอ บนเวที… เราไม่ได้ไปร้องเพื่อให้ “ถูก” ทุกโน้ต แต่เราไป “สื่อสาร” และ “สร้างความประทับใจ” ใช้เทคนิคที่แม่นยำเป็นรากฐาน แล้วปลดปล่อยตัวตนและอารมณ์ออกมาอย่างจริงใจที่สุด
หากคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับเวทีประกวด และต้องการโค้ชมืออาชีพที่จะช่วยคุณตรวจสอบ “จุดบอด” และขัดเกลาการแสดงของคุณให้สมบูรณ์แบบที่สุด ร้องเพลงดอทคอม โดยครูฟิล์ม ธนพรรษ พร้อมที่จะเป็นทีมของคุณครับ
✨ ที่ ร้องเพลงดอทคอม เราจะช่วยคุณ:
- ✔️ วิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดพื้นฐานการร้องเพลงอย่างตรงจุด
- ✔️ ค้นหาและพัฒนา “ลายเซ็น” หรือสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ
- ✔️ ให้คำปรึกษาในการเลือกเพลงที่เหมาะสมกับเสียงและบุคลิกของคุณที่สุด
- ✔️ ฝึกซ้อมการแสดงบนเวที (Stage Performance) เพื่อสร้างความมั่นใจ
- ✔️ เตรียมความพร้อมทั้งด้านเทคนิคและจิตใจ สำหรับการแข่งขันในทุกสถานการณ์
มาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงบนเวทีประกวดกับครูฟิล์มที่ ร้องเพลงดอทคอม กันนะครับ!
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
สนใจเรียนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
โทร: 099-232-4519
เว็บไซต์: www.rongpleng.com
Email: [email protected]
Line: @rongpleng หรือ https://lin.ee/W4wNpne1
TikTok: @rongpleng.com หรือ https://www.tiktok.com/@rongpleng.com
Instagram: @rongpleng หรือ https://www.instagram.com/rongpleng
#ประกวดร้องเพลง #เทคนิคการร้องเพลง #สอนร้องเพลง #เรียนร้องเพลง #TheVoiceTH #ร้องข้ามกำแพง #ครูฟิล์มสอนร้องเพลง #ร้องเพลงดอทคอม #StagePresence #SingingCompetition
ประกวดร้องเพลง, เทคนิคการร้องเพลง, สอนร้องเพลง, เรียนร้องเพลง, TheVoiceTH, ร้องข้ามกำแพง, ครูฟิล์มสอนร้องเพลง, ร้องเพลงดอทคอม, StagePresence, SingingCompetition